Woman Care Clinic

เลือกแบบไหนดี ตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก

รู้หรือไม่คะ ว่าในทุก ๆ วัน จะมีคนเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก วันละ 14 คน !! 😰

แต่สาวๆไม่ต้องกลัวไปนะคะ มะเร็งปากมดลูก “ป้องกันได้” เพียงแค่ตรวจคัดกรอง ค่ะ 🫶🏻

สำหรับวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีหลากหลายวิธีให้เลือกได้ตามความชอบเลยคะ ต่างกันยังไง วิธีไหนดี โพสต์นี้มีคำตอบค่ะ 👇🏻👩🏻‍⚕️

✅ PAP smear แบบดั้งเดิม
🔺ความแม่นยำ 50-60%
🔺ตรวจซ้ำทุก 1-2 ปี
👉🏻 ข้อดี : ราคาถูก
👉🏻 ข้อเสีย
– ไม่ค่อยแม่นยำ
– ถูกรบกวนได้ง่ายหากมี มูกหรือเลือดปนเปื้อน

✅ Thin Prep (liquid-based pap smear)
🔺ความแม่นยำ 70-80%
🔺ตรวจซ้ำทุก 1-2 ปี
👉🏻 ข้อดี : ตรวจได้แม้มีมูกเลือด
👉🏻 ข้อเสีย : ไม่ได้บอกว่ามีการติดเชื้อแฝงของ HPV

✅ Co-test (Thin Prep + HPV DNA)
🔺ความแม่นยำ 98-100%
🔺ตรวจซ้ำทุก 5 ปี
👉🏻 ข้อดี
– ความแม่นยำสูง ไม่ต้องตรวจบ่อย
– ทราบความผิดปกติได้ตั้งแต่ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง
👉🏻 ข้อเสีย : ราคาสูงที่สุด

✅ Primary HPV DNA test
🔺ความแม่นยำ 98-100%
🔺ตรวจซ้ำทุก 5 ปี
👉🏻 ข้อดี
– ความแม่นยำสูง ไม่ต้องตรวจบ่อย
– ทราบความผิดปกติได้ตั้งแต่ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง
👉🏻 ข้อเสีย
– หากพบเชื้อไวรัส จำเป็นต้องตรวจ Thin prep) เพิ่มเติม

✅ Self HPV test 🌟
🔺 ความแม่นยำ 98-100%
🔺ตรวจซ้ำทุก 5 ปี
👉🏻 ข้อดี
– ตรวจเองได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกตรวจภายใน 🧏🏻‍♀️
– ความแม่นยำสูง ไม่ต้องตรวจบ่อย
– ทราบความผิดปกติได้ตั้งแต่ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง
👉🏻 ข้อเสีย : ไม่ได้ตรวจภายในโดยแพทย์ จึงไม่เหมาะในรายที่มีอาการผิดปกติ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับวิธีต่างๆ สนใจตรวจแบบไหนกันดีคะ 😊 หรือถ้าหากสาวๆคนไหนยังไม่แน่ใจ สามารถปรึกษาคุณหมอให้ช่วยเลือกก่อนตรวจได้เช่นกันค่ะ 💖

ถ้าหากท่านใดตัดสินใจได้แล้ว
✔️ เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป หรือภายหลังเริ่มมีเพศสัมพันธ์แล้วอย่างน้อย 3 ปี
✔️ หยุดการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้เมื่ออายุ 65 นะคะ