Woman Care Clinic

การคุมกำเนิดมีกี่ชนิด ? มีวิธีไหนบ้างมาดูกัน

โดย นพ. ศุภณัฐ บุรินทร์กุล (หมอเอิร์ท)
พญ. ฐานิสา กิจจรัส (หมอแนน)

คลินิกฉีดยาคุมใกล้ฉัน

         เมื่อพูดถึงวิธีการคุมกำเนิด เชื่อว่าสาว ๆ หลาย ๆ ท่านคงจะมีคำถามและข้อสงสัยกันเยอะเลย ใช่ไหมคะ ? เพราะปัจจุบันวิธีการคุมกำเนิดนั้นมีให้เลือกมากมายหลายชนิด ทั้งชนิดไม่มีฮอร์โมน ฮอร์โมนเดี่ยว ฮอร์โมนรวม ออกฤทธิ์ระยะสั้น ยาว ที่แตกต่างกันจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแต่ละชนิด ให้สาว ๆ ได้มีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดชนิดต่าง ๆ กันค่ะ

(การคุมกำเนิดที่ออกฤทธิ์สั้น ๆ ในช่วงที่ใช้ และสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้หลังหยุดใช้ได้ไม่นาน)

● ชนิดไม่มีฮอร์โมน

         การนับวันปลอดภัย : เป็นการนับช่วงระยะที่ปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่า “หน้า 7 หลัง 7” โดยระยะปลอดภัยจะหมายถึง ก่อนการเป็นประจำเดือน 7 วัน และหลังประจำเดือนเริ่มมา 7 วัน (นับช่วงเป็นประจำเดือนด้วยนะคะ)

ข้อดี : ประหยัดค่าใช้จ่าย, ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน
ข้อเสีย : ประสิทธิภาพไม่แน่นอน, เหมาะในสาว ๆ ที่รอบเดือนมาสม่ำเสมอ

         การใส่ถุงยางอนามัย : การสวมถุงยางอนามัย (หมายรวมทั้งถุงยางอนามัยชาย และหญิง) จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ โดยควรเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วยนะคะ

ข้อดี : หาซื้อง่าย, มีผลป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ข้อเสีย : ประสิทธิภาพขึ้นกับความสม่ำเสมอของผู้ใช้, บางคนอาจมีอาการแพ้ส่วนประกอบของถุงยางอนามัยได้

● ชนิดมีฮอร์โมน

         ยาเม็ดคุมกำเนิด : ยาเม็ดคุมกำเนิดมีหลายชนิด โดยมีข้อห้าม และข้อบ่งใช้แตกต่างกันค่ะ ทั้งนี้ยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีผลคุมกำเนิดได้ดีเมื่อรับประทานยาสม่ำเสมอในทุกวันค่ะ

ข้อดี : ใช้งานง่าย, ลดอาการปวดประจำเดือน, ควบคุมรอบเดือนได้ดี
ข้อเสีย : อาจมีผลข้างเคียงเรื่องคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะและคัดตึงเต้านม, ประสิทธิภาพขึ้นกับวินัยในการรับประทานยาให้ตรงเวลา, อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ในยาบางยี่ห้อ

         ยาฉีดคุมกำเนิด : ยาฉีดคุมกำเนิดมีทั้งแบบชนิด 1 เดือนและ 3 เดือน มีขนาดยา และการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันค่ะ

ข้อดี : ออกฤทธิ์ได้นานกว่ายาเม็ดคุมกำเนิด, ลดอาการปวดประจำเดือนได้
ข้อเสีย : มีเลือดออกกะปริดกะปรอย และน้ำหนักขึ้นได้ หากฉีดชนิด 3 เดือน

                           

(การคุมกำเนิดที่ออกฤทธิ์ยาว โดยคุมได้ประมาณ 3-5 ปี ขึ้นกับวิธีการใช้ ประสิทธิภาพดีใกล้เคียงกับการทำหมัน)

● ชนิดไม่มีฮอร์โมน

         ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง : การใส่ห่วงคุมกำเนิดที่มีทองแดงเป็นส่วนประกอบ ส่งผลกีดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน

ข้อดี : ประสิทธิภาพสูง ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน, สามารถใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินได้
ข้อเสีย : ไม่แนะนำในผู้ป่วยที่มีปัญหาของโพรงมดลูก หรือมีการติดเชื้อ, อาจทำให้มีอาการปวดท้องขณะเป็นประจำเดือนได้เล็กน้อย และมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ในช่วงแรก

● ชนิดไม่มีฮอร์โมน

         ยาฝังคุมกำเนิด : ยาฝังคุมกำเนิดเป็นการคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวที่ออกฤทธิ์ได้นาน 3-5 ปีขึ้นกับชนิดที่เลือก โดยฝังบริเวณท้องแขนด้านในค่ะ

ข้อดี : ประสิทธิภาพสูงที่สุด และคุมกำเนิดได้นาน, ลดอาการปวดประจำเดือนได้
ข้อเสีย : เลือดออกกะปริดกะปรอย, อาจมีบวมช้ำบริเวณที่ใส่ได้

                                                       

         เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่า แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ถ้าหากว่าสาว ๆ คนไหนยังไม่แน่ใจว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเอง มีข้อสงสัย หรืออยากปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิด สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยเลือกได้เลยนะคะ

         โดย Woman Care Clinic ของเรา ดูแลโดยคุณหมอเฉพาะทางด้านฮอร์โมนผู้มากประสบการณ์ และให้การรักษาเป็นรายบุคคลอย่างตรงจุดและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหรือ การผ่าตัดส่องกล้องค่ะ  ติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 096-692-5044 หรือ line : @womancareclinic (มี@) ได้เลยค่ะ